ภาควิชาฟิสิกส์ประยุกต์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง KMITL
วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
กลุ่มฟิสิกส์ประยุกต์ปีการศึกษา 2556 (Facebook)
http://www.facebook.com/groups/412559585501991/#!/groups/412559585501991/
วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
แนะนำ 4 สาขาวิชาเอก(Minor) ของภาควิชาฟิสิกส์ประยุกต์ KMITL
09/12/2555
...วันนี้ ADMIN จะพามารู้จักกับ 4 วิชาเอก นะครับว่ามันมีอะไรบ้าง และแตกต่างกันอย่างไร
...วันนี้ ADMIN จะพามารู้จักกับ 4 วิชาเอก นะครับว่ามันมีอะไรบ้าง และแตกต่างกันอย่างไร
สาขาวิชาเอกโซลิทสเตทอิเล็กทรอนิกส์ (Solid State Electronics)
จุดมุ่งหมายของหลักสูตรสาขาโซลิทสเตทอิเล็กทรอนิกส์คือ
การผลิดตบัณฑิตให้มีความรู้สามารถทางด้านฟิสิกส์พื้นฐานและฟิสิกส์สถานะของแข็ง
โดยเน้นการศึกษาสมบัติของวัสดุสารกุ่งตัวนำ
เพื่อที่จะได้เกิดองค์ความรู้ไปสู่การประดิษฐ์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น
วงจรรวมโฟโตไดโอด โฟโตคีเคเตอร์ เลเซอร์ เซลล์แสงอาทิตย์
และสิ่งประดิษฐ์สารกึ่งตัวนำชนิดอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีการสอนวิชาเกี่ยวกับทฤษฎีวงจรอิเล็กทรอนิกส์
การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไมโครคอนโทรลเลอร์
อีกทั้งยังมีวิธีการสอนวิธีการสร้างแบบจำลองทางฟิสิกส์คำนวณ โดยใช้ซอฟแวร์ที่หลากหลาย
บัณฑิตที่จบหลักสูตรฟิสิกส์ประยุกต์สาขาเอกโซลิทสเตทอิเล็กทรอนิกส์
สามารถประกอบอาชีพเป็นนักวิทยาศาสตร์ และวิจัยในหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน
เช่น ในสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์แห่งชาติ(ว.ว.) ศูนย์วิจัยไทยโมโคอิเล็กทรอนิกส์(MTEC) ศูนย์วิจัยอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
(NECTEC) ศูนย์วิจัยนาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ(NANATECH) กรมวิทยาศาสตร์การริหาร
กองพิสูจน์หลักฐาน นักวิเคราะห์ระบบ วิศวกรตรวจคุณภาพ นักวิจัยและนักพัฒนา(R&D) ในโรงงานอุตสาหกรรม
วิศกรขายและซ่อมบำรุงในบริษัทตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือวิทยาศาสตร์
อีกทั้งยังสามารถศีกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก
ในคณะวิทยาศาสตร์และคณะวิศวกรรมศาสตร์อีกด้วย
สาขาเอกเครื่องมือวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม(INSTRUMENTATION)
เครื่องมือและการวัดมีควาเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และอุตหกรรมทุกแขนง
เครื่องมือวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม
คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการวัดและ/หรือควบคุมกระบวนการต่างๆ
จุดประสงค์ของการวัดคือเพื่อบอกปริมาณที่ต้องการรูปของตัวเลข
การวัดทำได้โดยอาศัยอุปกรณ์ที่เรียกว่าเครื่องมือวัดซึ่งอาจจะเป็นอุปกรณ์อย่างง่ายๆ
ราคาถูก เช่น ไม้บรรทัด หรือมีหลักการซับซ้อน เช่น กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
ทั้งคู่เป็นเครื่องมือวัดระยะทางเหมือนกัน
ต่างกันที่ละเอียดในการวัด(ไม้บรรทักมีความละเอียดระดับมิลลิเมตร
ในขณะที่กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนมีความระเอียดระดับนาโนเมตร)
เครื่องมือวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมโดยทั่ไปประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 7 ส่วน ได้แก่1.Sensing element 2.Signal conditioning element 3.Signal
processing element 4.Data presentation element
ส่วนของ Sensing element ซึ่งส่วนสัมผัสโดยตรงหรือทาวอ้อมกับสิ่งที่ต้องการวัดและให้เอาต์พุทอย่างใดอย่างหนึ่งที่เปลี่ยนไปตามปริมาณที่ต้องการวัด
นักศึกษาต้องมีความรู้ของวิชาฟิสิกส์วัสดุ(วิชา Solid state physics) อีก 3 ส่วนที่เหลือนึกศึกษาต้องมีความรู้ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์
ไมโครคอมพิวเตอร์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
นักศึกษาที่ศึกษาในสาขาเครื่องมือจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ
Sensor ชนิดต่างๆ เครื่องมือวัดพื้นฐานเช่น
อุณหภูมิ ความดัน อัตราการไหล เป็นต้น ไปถึงเครื่องมือวัดระดับสูง
เช่นกล้องจุลทรรศอิเล็กตรอนและกล้องจุลทรรศน์แบบแรงอะตอม เป็นต้น
นอกจากนี้ยังได้ปฏิบัติเพื่อเป็นการเสริมทักษะทางด้านการใช้เครื่องมือและการวัดด้วยเทคนิคระดับสูง
เช่น เทคนิคการกำจัดสัญญาณรบกวน การเชื่อต่อกับเครื่องมือกับคอมพิวเตอร์ การควบคุม
การเก็บข้อมูล และการบันทึกผลการวัดด้วยคอพิวเตอร์ เป็นต้น
เนื่องจากเครื่องมือวัดและระบบควบคุม
มีอยู่ทั้วไปในห้องปฏิบัติการวิจัย ทั้งภาครัฐและเอกชน
ตลอดจนโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหลาย บัณฑิตที่มีความรู้ทางด้านนี้จำเป็นที่ต้องการ
เช่น ภาครัฐ ได้แก่ กรมวิทยาศาสตร์การบริการ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ
เป็นต้น ภาคเอกชนได้แก่ บริษัทผลิตฮาร์ดิกส์ เช่น Seagate และ Western digital เป็นต้น บริษัทผลิตไอซี เช่ UTAC Thai เป็นต้น
สาขาวิชาเอกเทคโนโลยีการสื่อสารและแสง
(Optical Technology And
Communications)
Optics หรือ ภาษาไทยเรียกว่า
ทัศนศาสตร์ ซึ่งศึกษาพฤติกรรมและสมบัติต่างๆ
ของแสงปรากฎการณ์ที่เกี่ยวข้องในธรรมชาติกับแสง
รวมถึงปรากฏการณ์ที่เกิดจาดแสงกระทำต่อกับสารต่างๆ
การสร้างอุปกรณ์ในการตรวจวัดเกี่ยวกับแสงตัวอย่างของปรากฏการณ์ที่เราคุ้นเคย
ได้แก่ การสะท้อนแสง ทำให้เรามองเห็นภาพจากกระจก
การหักเหของแวงทำให้เราสร้างเลนส์มาใช้งานต่างๆมากมาย เช่น แว่นสายตา
กล้องโทรทรรศน์ กล้องจุลทรรศน์ รวมถึงทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับสีสวยงามในรุ้งกินน้ำ
การแทรกสอดทำให้เราเห็นสีสันสวยงาม การเลี้ยวเบนทำให้เราสร้างอุปกรณ์ในการแยกความยาวคลื่นของแสงที่เรียกว่าเกรตติ้ง
โพลาไรเซชัน ทำให้เราสร้างแผ่นโพลารอยด์ เพื่อให้ในการปรับความเข้มแสง เป็นต้น
ทัศนศาสตร์ยุคใหม่ได้เน้นการนำความเข้าใจเกี่ยวกับสมบัติคลื่นของแสง
ซึ่งเป็นชนิดหนึ่งของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามาใช้ประโยชน์ สิ่งที่เป็นผลผลิตที่สำคัญจากการศึกษานี้
ได้แก่ เลเซอร์ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแสงที่มีสมบัติพิเศษสามารถนำมาใช้ประโยชน์
ได้มากมายทั้งทางด้านการสื่อสาร การแพทย์ การทหาร ความบันเทิง และอื่นอีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีOptical disc,digital
camera,LED,display panel เป็นต้น
ทัศนศาสตร์มีบทบาทสำคัญในงานด้านต่างๆดังนี้
-การวัดปริมาณต่างๆที่เกี่ยวข้องกับแสง
(photometry,radiometry)
-การศึกษาสมบัติเชิงแสงของวัสดุ(optical properties of materials)
-การประยุกต์ใช้ใยแก้วนำแสง
-ด้านการแพทย์
-การพัฒนาหัววัดแสง (optical sensor)
-การพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ๆ
ที่สร้างหรือใช้วัดแสง(optical devices)
-การพัฒนาเครื่องมือ/อุปกรณ์การวัดงานต่างๆที่ใช้แสง
เช่น spectrophotometer
สาขาเอกพลังงานทางเลือก
(ALTERNATIVE ENERGY)
ปัจจุบันพลังงานทดแทนได้เริ่มเข้ามามีบทาท
ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมากขึ้นเนื่องจากพลังงานที่ได้มากจาซากดึกดำบรรพ์
เช่น น้ำมัน ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ เป้นพลังงานที่ใช้หมดไปไม่สามารถมาทดแทนได้
ดังนั้นสาขาวิชาฟิสิกส์ประยุกต์ จึงได้จัดตั้งหลักสูตรวิชาเอกพลังงานทางเลือก
ได้แก่ กลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวมวล พลังงานนิวเคลียร์ เป็นต้น
โปรแกรมการศึกษาจะเป็นหลักการของเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกในแบบต่างๆ
ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในวิชาโครงงานพิเศษบัณฑิตที่จบหลักสูตรฟิสิกส์ประยุกต์ในสาขาวิชาเอกพลังงานทางเลือก
สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการทำงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐและเกชน เช่น
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติ(ว.ว)
สถาบันพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์เทค) โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า
และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโซลาเซลล์ เป้นต้น
วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555
แนะนำภาควิชาฟิสิกส์ประยุกต์ลาดกระบัง(KMITL)
07/11/2555
หลักสูตรระดับปริญญาตรี
-หลักสูตรปี 2551
-หลักสูตรปี 2554 (หลักสูตรใหม่)
...สำหรับผู้ที่เข้ามาศึกษาในปี 2555 เป็นต้นไปจะใช้หลักสูตรใหม่นะครับ
สาขาฟิสิกส์ประยุกต์ที่KMITL นั้น จะเน้นทั้งปฏิบัติและทฤษฏีอย่างเท่าเทียมกัน โดยทั้งหลักสูตรใหม่และหลักสูตรเก่า จะแบ่งออกเป็น อีก 4 วิชาเอก อีกคือ
หลักสูตรระดับปริญญาตรี
-หลักสูตรปี 2551
-หลักสูตรปี 2554 (หลักสูตรใหม่)
...สำหรับผู้ที่เข้ามาศึกษาในปี 2555 เป็นต้นไปจะใช้หลักสูตรใหม่นะครับ
สาขาฟิสิกส์ประยุกต์ที่KMITL นั้น จะเน้นทั้งปฏิบัติและทฤษฏีอย่างเท่าเทียมกัน โดยทั้งหลักสูตรใหม่และหลักสูตรเก่า จะแบ่งออกเป็น อีก 4 วิชาเอก อีกคือ
- SOLID STATE ELECTRONICS
- SCIENTIFIC AND INSUSTRIAL INSTRUMENTION
- ALTERNETIVE WNERGY
- OPTICAL AND COMMUNICATION TECHNOLOGY <<< Admin กำลังศึกษาอยู่วิชาเอกทางด้านนี้
บอกได้เลยว่าสาขาฟิสิกส์ประยุกต์ที่นี่ เนื้อหาเข้มข้นมากๆ อาจารย์แต่ละท่านสุดยอดทั้งนั้น แต่ขอบอกไว้เลยว่า หากใครที่จะเรียนฟิสิกส์ประยุกต์ที่นี่ จะได้พบกับ มหกรรมการเรียนโต้รุ่ง และ เรียนล่วงเวลา (เป็นเรื่องจริงครับ ADMIN ที่เขียน BLOG อยู่นี้ อยู่ปี 3 พึ่งประสบพบเจอประสบการณ์นี้ตอนปี 2 และล่าสุด ตอนปี 3 เทอม1) แต่ขออุ๊บไว้ก่อนว่า คือวิชาอะไร ><!!! นอกจากเนื้อหาที่นี่เข้มข้นแล้ว อาจารย์ยังเป็นกันเองกับนักศึกษา ในเรื่องของการปฏิบัติ ได้ลงมือปฏิบัติจริงๆ(ส่วนใหญ่จะให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง จากการปฏิบัติ) ไม่ใช่ แลปแห้ง มีอุปกรณ์ในการทำแลปที่ทันสมัย(มักจะอยู่ปี 3 ขึ้นไป ราคาเหยียบครึ่งล้าน) นอกจากนี้ยังมีการไปศึกษาดูงานนอกสถานที่ในวิชาเอกที่เราเลือกที่เกี่ยวข้อง และอีกอย่างวิชาที่นี่จะเข้มข้นไปทางด้าน Quantum Mechanic.Electromagnetic,Electronic,Solid State And Semiconductor. ซึ่ง 5 วิชานี้ แท้จริงแล้วมันคือ "หัวใจ ของฟิสิกส์ประยุกต์ที่ KMITL" เลยทีเดียว
แนะนำศาสตร์แห่งฟิสิกส์(วิทยาศาสตร์กายภาพ)
07/12/2555
...ปัจจุบันสาขาฟิสิกส์หรือฟิสิกส์ประยุกต์อาจจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนักสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย เพราะหลายๆคนมักมองมันว่าเป็นสาขาที่ยาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในสาขานี้ไมยากอย่างที่ใครๆคิด Admin ขอคอนเฟิร์ม เพราะ Admin ก็เพิ่งจะมาเข้าใจตอนอยู่ปี 1 แต่เนื่องจาก สมัย ม.ปลาย นั้น วิชาฟิสิกส์ นั้นจำเป็นต้องมีพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ค่อนมาก เนื่องจาก ฟิสิกส์มันต้องใช้คณิตศาสตร์อธิบาย ทำให้ดูเหมือนว่าเราต้องเรียน 2 ศาสตร์ ใน1วิชา คือ วิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์ = ฟิสิกส์ แต่หากเราจับหลักของมันได้แล้วและสามารถหลอม 2 ศาสตร์นี้รวมเป็น 1 เดียวได้ เราก็จะสามารถเข้าใจฟิสิกส์ได้มากยากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้แล้วฟิสิกส์ ตอน ม.ปลาย นั้น เราต้องอาศัยทักษะในการฝึกทำโจทย์และเข้ากับสูตรมันเยอะๆ แต่ในทางกลับกันในระดับอุดมศึกษานั้น การที่เราจะเข้าใจฟิสิกส์อย่างถ่องแท้และลึกซึ้งได้นั้น เราจำเป็นจะต้องเข้าใจ THEORY AND MATHAMATICA รวมถึง SIMULATION ฟิสิกส์ใช่ว่า เราจะอ่านเพียง 1 เดือนแล้วเราจะเข้าใจ มันไม่ใช่อย่างนั้น การที่เราจะเข้าใจได้นั้นเราจำเป็นต้องใช้เวลาเป็นแรมปี ถึงเราจะเข้าใจ การที่จะเข้าใจไวหรือไม่ไวนั้นขึ้นอยู่กับ ความขยันและความชอบส่วนบุคคล หรือเรียกว่า "พรแสวง" นั่นเอง ซึ่งไม่ได้ขึ้นกับพรสวรรค์เลย
สรุป...ฟิสิกส์ มันไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงคุณมีแค่ 2 สิ่งคุณก็สามารถเรียนรู้และอยู่กับมันได้คือ "ความขยัน+ความชอบ" 2 สิ่งนี้แหละที่จะเป็นหนทางสู่ความสำเร็จในศาสตร์ด้านนี้ มองๆดูแล้ว ฟิสิกส์ มันก็คือ อนุภาคตัวหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวมันเองได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้แล้วฟิสิกส์ ตอน ม.ปลาย นั้น เราต้องอาศัยทักษะในการฝึกทำโจทย์และเข้ากับสูตรมันเยอะๆ แต่ในทางกลับกันในระดับอุดมศึกษานั้น การที่เราจะเข้าใจฟิสิกส์อย่างถ่องแท้และลึกซึ้งได้นั้น เราจำเป็นจะต้องเข้าใจ THEORY AND MATHAMATICA รวมถึง SIMULATION ฟิสิกส์ใช่ว่า เราจะอ่านเพียง 1 เดือนแล้วเราจะเข้าใจ มันไม่ใช่อย่างนั้น การที่เราจะเข้าใจได้นั้นเราจำเป็นต้องใช้เวลาเป็นแรมปี ถึงเราจะเข้าใจ การที่จะเข้าใจไวหรือไม่ไวนั้นขึ้นอยู่กับ ความขยันและความชอบส่วนบุคคล หรือเรียกว่า "พรแสวง" นั่นเอง ซึ่งไม่ได้ขึ้นกับพรสวรรค์เลย
สรุป...ฟิสิกส์ มันไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงคุณมีแค่ 2 สิ่งคุณก็สามารถเรียนรู้และอยู่กับมันได้คือ "ความขยัน+ความชอบ" 2 สิ่งนี้แหละที่จะเป็นหนทางสู่ความสำเร็จในศาสตร์ด้านนี้ มองๆดูแล้ว ฟิสิกส์ มันก็คือ อนุภาคตัวหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวมันเองได้ตลอดเวลา
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)